ประเทศไทยได้รับการประกาศเป็นสมาชิกใหม่ ลำดับที่ 35 ของ Enactus พร้อมรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Enactus World Cup 2025 ครั้งที่ 25
หลังจากที่ห่างหายไปหลายปี ประเทศไทยได้กลับเข้าร่วมเป็นสมาชิก Enactus อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ภายใต้การดำเนินการโดยมูลนิธิรากแก้ว ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่อง 18 ปี องค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยผ่านการสร้างสรรค์ โครงการที่เน้นความยั่งยืน และการแก้ปัญหาสังคม และได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Enactus World Cup 2025 ครั้งที่ 25 ที่กรุงเทพมหานคร งานใหญ่ระดับโลกที่เยาวชนจากกว่า 30 ประเทศ จะได้มารวมตัวเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และแสดงผลงานด้านนวัตกรรมเพื่อสังคม


วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน นางอรทัย ภูบุญลาภ กูนาซีลาน อุปทูตไทย ณ กรุงอัสตานา พร้อมด้วยหม่อมหลวงปริยดา ดิศกุล กรรมการมูลนิธิรากแก้วได้รับเกียรติเป็นตัวแทนประเทศไทย เพื่อรับมอบแบย์เตียเรียกจำลอง (Bayterek) สัญลักษณ์ของกรุงอัสตานา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ส่งต่อการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Enactus World Cup 2025 อย่างเป็นทางการ การรับเป็นเจ้าภาพในการจัดครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมบทบาทของนิสิตนักศึกษาไทยในเวทีระดับโลกและเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยที่มีโอกาสได้เป็นศูนย์กลางของการจัดงานเครือข่ายเยาวชนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ในระดับนานาชาติ การจัดงาน 2025 Enactus World Cup ครั้งที่ 25 ณ กรุงเทพมหานคร ครั้งนี้ประเทศไทยจะเป็นเวทีศูนย์กลางการแข่งขันโครงการเพื่อสังคมของนิสิตนักศึกษาในระดับนานาชาติที่แสดงถึงการรวมพลังของเยาวชนทั่วโลกและเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์จากเยาวชนผู้นำรุ่นใหม่จาก 34 ประเทศ ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมและโลกอย่างยั่งยืน โดยใช้แนวคิดและนวัตกรรมทางธุรกิจเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งเวทีในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่นิสิตนักศึกษาไทย จะได้แสดงศักยภาพต่อสายตาชาวโลก และสร้างเครือข่ายเยาวชนจากต่างประเทศมีเป้าหมายเดียวกัน
ซึ่งในปี 2568 นี้ยังเป็นปีที่สำคัญของ Enactus ในการการฉลอง ครบรอบ 50 ปีของ Enactus องค์กรที่ขับเคลื่อนเครือข่ายผู้นำระดับโลกที่มุ่งมั่นใช้พลังของธุรกิจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งประสานความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยนำความเชี่ยวชาญของนักการศึกษาและผู้นำธุรกิจมารวมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพของนิสิตนักศึกษาเตรียมความพร้อมให้พวกเขาสำหรับบทบาทผู้นำในธุรกิจและการสร้างสรรค์ความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
เครือข่ายของ Enactus ครอบคลุมกว่า 30 ประเทศ ที่รวมกันด้วยเป้าหมาย ค่านิยม และแนวทางการทำงานร่วมกันอย่างชัดเจน ซึ่งประเทศไทยกลับมาเข้าร่วมเป็นสมาชิก ลำดับที่ 35 บทบาทสำคัญของ Enactus คือเชื่อว่าธุรกิจจะเป็นกลไกในเร่งการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยการดำเนินงานในหลายด้าน ได้แก่ การเสริมสร้างศักยภาพของแต่ละประเทศ เพื่อขับเคลื่อนโครงการที่มีผลกระทบเชิงบวก การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมข้ามพรมแดนเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ระดับโลก การสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ระดับสากลให้กับนิสิตนักศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำในอนาคต การสนับสนุนของวิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ก่อตั้งโดยนิสิตนักศึกษาและศิษย์เก่า การร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลาย ที่ช่วยสนับสนุนนวัตกรรมทางการศึกษา การสนับสนุนทีมของนักศึกษา และการระดมทุน Enactus ได้สร้างเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก โอกาสการจัดงานครั้งนี้จะช่วยทำให้ประเทศไทย ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ในการจัดงานครั้งนี้ โดยจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของงานด้านความยั่งยืน (Sustainability) ในภูมิภาคอาเซียน ให้ต่างชาติได้รู้จักมากขึ้น และในด้านผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว งาน Enactus World Cup 2025 จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมงานทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งจะไม่เพียงเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางด้านความยั่งยืนในอาเซียนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวและการลงทุนอีกด้วย




การเข้าร่วมโปรแกรม Enactus มีประโยชน์สำหรับนิสิตนักศึกษาไทยอย่างไร
การยกระดับจากโครงการรากแก้ว สู่ Enactus Thailand ไม่ได้เป็นเพียงแค่การ Rebranding แต่เป็นการเพิ่มโปรแกรมการเรียนรู้ทักษะเชิงธุรกิจ และการฝึกฝนความสามารถที่สำคัญหลายด้านตั้งแต่การทำงานเป็นทีม การคิดเชิงกลยุทธ์ การสร้างนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน และการมีความรับผิดชอบต่อสังคม นิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้ลงมือทำจริงในชุมชนได้เผชิญกับปัญหาที่แท้จริง และได้พัฒนานวัตกรรมที่มีผลกระทบเชิงบวกทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ Enactus Thailand ยังเป็นแพลตฟอร์ม ที่สำคัญสำหรับนิสิตนักศึกษาไทย ในการเชื่อมต่อกับผู้นำธุรกิจระดับโลก ผู้นำนวัตกรรม และผู้สนับสนุนทุนการดำเนินงาน ทั้งภาคเอกชนและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเป็นโอกาสที่จะเปิดประตูสู่เครือข่ายการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและสร้างผลกระทบต่อชุมชนทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก สุดท้าย การกลับมาของ Enactus Thailand ยังคงตอกย้ำว่าประเทศไทยจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเยาวชนไทยในการนำพาสังคมไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน และเยาวชนไทยนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสังคมโลกด้วยความคิดสร้างสรรค์และการเป็นผู้ประกอบการสำหรับหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนใด ที่อยากมีส่วนร่วมในการสนับสนุนพลังของนิสิตนักศึกษาไทยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ ของมูลนิธิรากแก้ว
#EnactusThailand #RakkaewFoundation